“ผู้หญิงกับผู้ชายเป็นเพื่อนกันไม่ได้” เคยมีคนกล่าวเอาไว้ เพราะโดยธรรมชาติแล้ว เมื่อผู้หญิงกับผู้ชายมีโอกาสได้ใกล้ชิดกันหรืออยู่กันตามลำพังสองต่อสอง ความสัมพันธ์ก็มักเลยเถิดไปสู่เรื่องชู้สาว เปรียบได้ดั่งไฟกับน้ำมัน เข้าใกล้กันเกินไป ไฟก็ลุกพรึ่บพรั่บ ยิ่งหากกำลังอยู่ในวัยหนุ่มสาวที่ฮอร์โมนกำลังพลุ่งพล่านด้วยแล้วละก็ ไฟเสน่หาที่เกิดขึ้นก็ยากนักที่จะดับลงได้ ผู้ใหญ่จึงได้คอยระวังนักหนาไม่ให้หญิงชายอยู่ใกล้กันเกินไป โดยเฉพาะผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง ที่เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้ว ความเสียหายย่อมมีมากกว่าฝ่ายชายอย่างเห็นได้ชัด
แต่วัยรุ่นสมัยนี้ก็มิได้นำพา
หนุ่มสาวมากมายจับคู่อยู่กินกันระหว่างเรียน ด้วยถือตนว่าโตพอที่ตัดสินใจอะไรเองได้แล้ว แน่ละสถานะของคู่รักเหล่านั้นคือแฟน แต่ถ้ามีสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวด้วยกันแล้วฝ่ายชายมอบสถานะให้แค่เพื่อนล่ะ มันหมายความว่าอย่างไร? ผู้เขียนรู้จักอยู่คู่หนึ่งที่ฝ่ายหญิงถูกจำกัดสิทธิ์ไว้เพียงคำว่าเพื่อนเท่านั้น
ว่าแต่คนที่นอนด้วยกันแล้วนี่ยังนับเป็นแค่เพื่อนอยู่อีกหรือ?
จะว่าเป็นแค่เพื่อนนอน เธอก็มีสิทธิ์ในการดูแลบ้านเต็มที่ ใช้เงินกระเป๋าเดียวกับผู้ชายได้ ไปไหนมาไหนด้วยกัน ซื้อของเข้าบ้านด้วยกัน เพียงแต่ไม่มีสิทธิ์หึงหวงเวลาฝ่ายชายคบหาผู้หญิงคนอื่น เพราะคำว่าเพื่อนมันค้ำคออยู่ ครั้นทวงถามหาความยุติธรรมกับผู้ชาย ก็อ้างว่ายังไม่พร้อมจะเขยิบฐานะ ยังทำใจลืมรักเก่าไม่ได้ จะบอกเลิกก็ทำไม่ลงเพราะรักเหลือเกิน จึงได้แต่ทำใจรอ แต่แล้วผู้ชายคนนั้นก็ไปเจอคนใหม่และสลัดเธอทิ้งอย่างไม่ใยดีจนได้
อย่ายอมเป็นคนคั่นเวลาให้ใคร ถ้าไม่อยากให้ชีวิตลงเอยด้วยน้ำตา