ว่ากันว่า ความใกล้ชิดเป็นบ่อเกิดของความรัก แต่คนที่มีความใกล้ชิดกันกลับมอบความรู้แบบเพื่อนสนิทให้กันก็มีมาก การคลุมถุงชนของคนสมัยเก่าที่บอกแก่คู่บ่าวสาวว่า เดี๋ยวก็รักกันไปเองนั้น ก็ไม่ได้เป็นความจริงเสมอไปนัก คู่ไหนโชคดี เกิดความรักขึ้นมาในภายหลัง ก็ครองคู่กับจนแก่เฒ่า แต่คู่ไหนเข้ากันไม่ได้ ต้องเลิกร้างกันไปก็มีไม่น้อย ยกเว้นว่าญาติผู้ใหญ่ไม่ยอมให้เลิกหรือห่วงหน้าตาทางสังคม ก็ต้องปั้นหน้าชื่นสู่วงสังคม ลับหลังก็แยกย้ายกันไปหาชู้รักกันคนละทางก็มี
ทีนี้มาว่ากันด้วยความสงสารบ้าง กรณีนี้นับเป็นเคสพิเศษที่ก่อให้เกิดความใกล้ชิดและผูกพันกันมากกว่าปกติ จนหลายคู่เข้าใจผิดว่าเป็นความรักก็มี หรือบางครั้ง ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาศัยความสงสารที่อีกฝ่ายมีให้มาผูกมัดให้ใช้ชีวิตร่วมกันก็มีให้เห็นกันไม่น้อย เช่น แสร้งทำตัวอ่อนแอ ขาดเธอแล้วอยู่ไม่ได้ หรือใช้ไม้แข็งด้วยการขู่ว่าจะฆ่าตัวตายถ้าไม่ได้รับความสนใจ อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งแรก ๆ อีกฝ่ายก็อาจพอทำใจอยู่ด้วยได้ แต่สำหรับบางคนแล้ว ต่อให้สงสารหรือเห็นใจมากแค่ไหน ความสัมพันธ์ดังกล่าวก็ไม่อาจพัฒนาเป็นความรักระหว่างชายหญิงได้เลย และหากยังดันทุรังอยู่ด้วยกันต่อไป ความสงสารก็จะเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังที่ยิ่งนานก็ยิ่งฝังรากลึก แล้วก็ลงเอยด้วยการจากลาอยู่ดี แถมเป็นการลาจากชนิดมองหน้ากันไม่ติดอีกด้วย
ใครที่กำลังคิดจะใช้กลยุทธนี้ลองตรองดูใหม่อีกทีก็ยังไม่สายนะ